alt

การวิเคราะห์ตลาดแชมพูในประเทศไทย

รายงานฉบับสมบูรณ์ 15 จุด พร้อมข้อมูลเชิงลึกและแนวโน้มตลาด

สรุปผู้บริหาร

ตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมในประเทศไทยมีมูลค่า 42.3 พันล้านบาท ในปี 2023 และคาดการณ์เติบโตด้วยอัตรา 7% ต่อปี จนถึงปี 2028 โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนหลักจากความกังวลของผู้บริโภคกว่า 30 ล้านคนเกี่ยวกับปัญหาเส้นผม และกระแส Clean Beauty ที่เน้นส่วนผสมจากธรรมชาติ

มูลค่าตลาดรวม 2023

42.3 พันล้านบาท

อัตราการเติบโต (CAGR)

7% ต่อปี

คาดการณ์มูลค่า 2028

58.4 พันล้านบาท

ผู้บริโภคที่มีปัญหาเส้นผม

30+ ล้านคน

1. บทนำและภาพรวมตลาด

ตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมในประเทศไทยเป็นตลาดที่มีศักยภาพและเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยหนุนจากความกังวลของผู้บริโภคมากกว่า 30 ล้านคนเกี่ยวกับปัญหาเส้นผม ข้อมูลจาก Euro Monitor ระบุว่าในปี 2023 ตลาดมีมูลค่าสูงถึง 42.3 พันล้านบาท และคาดการณ์ว่าจะเติบโตด้วยอัตราการเติบโตต่อปี (CAGR) ที่ 7% จนมีมูลค่าแตะ 58.4 พันล้านบาทในปี 2028

หมวดหมู่ผลิตภัณฑ์ มูลค่าตลาดปี 2023 (ล้านบาท) คาดการณ์ปี 2028 (ล้านบาท) CAGR 2023-2028
ตลาดรวม Hair Care 42,294.8 58,400.0 7.0%
แชมพู 19,984.7 24,386.7 4.1%
ครีมนวดและทรีตเมนต์ 7,897.6 10,075.0 5.0%
ผลิตภัณฑ์ซาลอน 6,545.6 8,914.5 6.4%
ผลิตภัณฑ์ปิดผมขาว 5,878.4 7,428.8 4.8%
ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผม 1,596.5 2,175.1 6.4%

2. การวิเคราะห์ PESTEL

การวิเคราะห์ปัจจัยภายนอกที่มีผลกระทบต่อตลาดแชมพูในประเทศไทย แสดงให้เห็นถึงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่ซับซ้อนและมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง

Political (การเมือง)

นโยบายรัฐบาลด้านสุขภาพและความงาม กฎระเบียบ อย. การควบคุมการนำเข้าผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง และมาตรฐาน GMP ที่เข้มงวดขึ้น

Economic (เศรษฐกิจ)

กำลังซื้อของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น การเติบโตของชั้นกลาง อัตราเงินเฟ้อที่ส่งผลต่อต้นทุนวัตถุดิบ และค่าเงินบาทที่มีผลต่อการนำเข้า

Social (สังคม)

แนวโน้มประชากรสูงอายุ ความตระหนักด้านสุขภาพและความงาม กระแส Clean Beauty และการเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์สู่การดูแลตนเองมากขึ้น

Technological (เทคโนโลยี)

นวัตกรรมการผลิตแชมพู เทคโนโลยีสกัดสมุนไพร การพัฒนาบรรจุภัณฑ์ และการขยายตัวของช่องทางการจัดจำหน่ายออนไลน์

Environmental (สิ่งแวดล้อม)

ความยั่งยืนและบรรจุภัณฑ์รักษ์โลก การใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ และความตระหนักด้านผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

Legal (กฎหมาย)

กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค ข้อกำหนดฉลากผลิตภัณฑ์ มาตรฐานความปลอดภัย และกฎระเบียบการโฆษณาผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง

3. การวิเคราะห์ Five Forces Model ของ Porter

การประเมินแรงกดดันในการแข่งขันในอุตสาหกรรมแชมพูแสดงให้เห็นถึงความเข้มข้นของการแข่งขันและโอกาสทางธุรกิจ

4. การวิเคราะห์ Value Chain (ห่วงโซ่คุณค่า)

การวิเคราะห์กิจกรรมหลักและกิจกรรมสนับสนุนในห่วงโซ่คุณค่าของอุตสาหกรรมแชมพู แสดงให้เห็นถึงจุดสร้างมูลค่าเพิ่มในแต่ละขั้นตอน

กิจกรรมหลัก (Primary Activities)

การจัดหาวัตถุดิบ: การเลือกสรรสมุนไพรคุณภาพสูง การสร้างความสัมพันธ์กับเกษตรกรท้องถิ่น

การผลิต: กระบวนการสกัดสมุนไพร การควบคุมคุณภาพตามมาตรฐาน GMP การพัฒนาสูตรที่มีประสิทธิภาพ

การตลาดและการขาย: การสร้างแบรนด์ การโฆษณาและประชาสัมพันธ์ การจัดจำหน่ายผ่านช่องทางต่างๆ

การจัดส่งและโลจิสติกส์: การกระจายสินค้าสู่จุดขาย การจัดการสต็อก การส่งมอบสินค้าถึงผู้บริโภค

บริการหลังการขาย: การให้คำปรึกษา การรับประกันสินค้า การดูแลลูกค้าสัมพันธ์

5. แผนที่หมวดหมู่ผลิตภัณฑ์แชมพู (Category Map)

การแบ่งประเภทแชมพูตามคุณสมบัติและกลุ่มเป้าหมาย แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายของตลาดและโอกาสในการสร้างความแตกต่าง

แชมพูทั่วไป

เน้นการทำความสะอาดและบำรุงพื้นฐาน เหมาะสำหรับทุกสภาพผม ราคาเข้าถึงง่าย แบรนด์หลัก: Sunsilk, Dove, Rejoice

แชมพูเฉพาะทาง

แก้ปัญหาผมเฉพาะ เช่น ผมร่วง (AloEx, Clear), รังแค (Head & Shoulders), ผมมัน, ผมแห้งเสีย, ผมทำสี

แชมพูธรรมชาติ/ออร์แกนิก

ส่วนผสมจากธรรมชาติ ปราศจากสารเคมีอันตราย ตอบโจทย์กระแส Clean Beauty แบรนด์หลัก: Khao Kho, Positif, Diane Be True

แชมพูพรีเมียม/ซาลอน

คุณภาพระดับมืออาชีพ ส่วนผสมเข้มข้น ผลลัพธ์ระดับซาลอน แบรนด์หลัก: L'Oréal Professionnel, Kérastase

6. การวิเคราะห์ตำแหน่งทางการตลาดของแบรนด์หลัก

การระบุตำแหน่งของแบรนด์แชมพูชั้นนำในตลาด แสดงให้เห็นถึงกลยุทธ์และจุดแข็งของแต่ละแบรนด์

Havilah

ตำแหน่ง: แชมพูสมุนไพรสดเข้มข้น เห็นผลจริง
กลยุทธ์: เรื่องราวของผู้ก่อตั้ง การตลาดดิจิทัล TikTok
เป้าหมาย: ผู้มีปัญหาผมร่วงจริงจัง

Lyo

ตำแหน่ง: คิดค้นโดยเภสัชกร มีความน่าเชื่อถือทางวิทยาศาสตร์
กลยุทธ์: การรับรองจากผู้เชี่ยวชาญ
เป้าหมาย: ผู้ต้องการความมั่นใจจากผู้เชี่ยวชาญ

Bergamot

ตำแหน่ง: แบรนด์ดั้งเดิมที่เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร
กลยุทธ์: ช่องทางจัดจำหน่ายที่แข็งแกร่ง
เป้าหมาย: ผู้บริโภควงกว้างที่คุ้นเคยกับแบรนด์

Falles

ตำแหน่ง: น้ำมันผิวมะกรูดสกัดเย็น
กลยุทธ์: การเข้าถึงผ่าน Modern Trade
เป้าหมาย: ผู้บริโภคที่หาซื้อง่าย

7. การวิเคราะห์ 7Ps Marketing Mix

การวิเคราะห์กลยุทธ์ทางการตลาดของแบรนด์แชมพูในแต่ละองค์ประกอบ แสดงให้เห็นถึงความซับซ้อนและความสำคัญของการวางแผนการตลาดแบบองค์รวม

Product (ผลิตภัณฑ์)

ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ตั้งแต่แชมพูทั่วไปไปจนถึงแชมพูเฉพาะทาง การพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง การออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่ดึงดูดใจ และการใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติที่ตอบโจทย์กระแส Clean Beauty

Price (ราคา)

กลยุทธ์การตั้งราคาที่หลากหลายตั้งแต่ระดับประหยัดถึงพรีเมียม การจัดโปรโมชั่นและส่วนลดอย่างสม่ำเสมอ และการจัดชุดผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่มมูลค่าการซื้อ

Place (ช่องทางการจัดจำหน่าย)

ช่องทางที่หลากหลายครอบคลุมทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ตั้งแต่ร้านค้าปลีกสมัยใหม่ ร้านสะดวกซื้อ ร้านเครื่องสำอาง ไปจนถึงแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซและโซเชียลมีเดีย

Promotion (การส่งเสริมการขาย)

การใช้สื่อผสมที่ครอบคลุมทั้งสื่อดั้งเดิมและสื่อดิจิทัล การใช้ Influencer Marketing และ User-Generated Content การสร้างแบรนด์ผ่านการเล่าเรื่องและการสร้างประสบการณ์

8. การวิเคราะห์ SWOT

การประเมินจุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรคของตลาดแชมพูในประเทศไทย

จุดแข็ง (Strengths) จุดอ่อน (Weaknesses)
• ความหลากหลายของสมุนไพรไทย
• ความเชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ
• ต้นทุนการผลิตที่แข่งขันได้
• ฐานผู้บริโภคที่ใหญ่
• การแข่งขันด้านราคาที่รุนแรง
• ขาดการลงทุนด้าน R&D ในบางแบรนด์
• การพึ่งพาการนำเข้าวัตถุดิบบางชนิด
• ความท้าทายในการสร้างความแตกต่าง
โอกาส (Opportunities) อุปสรรค (Threats)
• กระแส Clean Beauty ที่เติบโต
• การขยายตัวของช่องทางออนไลน์
• ความต้องการผลิตภัณฑ์พรีเมียม
• โอกาสการส่งออกสู่ตลาดต่างประเทศ
• การเข้ามาของแบรนด์ต่างประเทศ
• การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค
• ความผันผวนของราคาวัตถุดิบ
• กฎระเบียบที่เข้มงวดขึ้น

9. กลุ่มเป้าหมายและพฤติกรรมผู้บริโภค

การระบุกลุ่มเป้าหมายหลักและการทำความเข้าใจพฤติกรรมการเลือกซื้อแชมพู แสดงให้เห็นถึงความซับซ้อนของการตัดสินใจของผู้บริโภคยุคดิจิทัล

วัยรุ่น (15-25 ปี)

ให้ความสำคัญกับแบรนด์ที่ทันสมัย ราคาไม่แพง และมีการสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดีย มักได้รับอิทธิพลจาก Influencer และเพื่อน

วัยทำงาน (26-45 ปี)

มองหาผลิตภัณฑ์ที่แก้ปัญหาเฉพาะ ยินดีจ่ายเพิ่มเพื่อคุณภาพ ใช้เวลาในการค้นหาข้อมูลก่อนตัดสินใจซื้อ

ผู้สูงอายุ (45+ ปี)

ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและประสิทธิภาพ มักเลือกแบรนด์ที่คุ้นเคยและมีชื่อเสียง

ผู้ใส่ใจสุขภาพ

มองหาผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ ปราศจากสารเคมี ยินดีจ่ายพรีเมียมเพื่อความปลอดภัยและความยั่งยืน

เส้นทางการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคยุคดิจิทัล

1. การค้นหาข้อมูล: เริ่มจากการค้นหาใน Google ด้วยคีย์เวิร์ด "แชมพูลดผมร่วง" หรือ "วิธีแก้ผมร่วง" ควบคู่กับการดูข้อมูลบน Social Media

2. การประเมินจากรีวิว: การรีวิวจากผู้ใช้งานจริงบนแพลตฟอร์มอย่าง Pantip มีอิทธิพลสูงต่อการตัดสินใจ

3. การตัดสินใจซื้อ: โปรโมชั่น ส่วนลด และการจัดชุดสินค้ายังคงเป็นปัจจัยกระตุ้นสำคัญ

11. ความท้าทายและอุปสรรค

ความท้าทายที่ผู้ประกอบการต้องเผชิญ เช่น การแข่งขันสูง การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค ต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น และความจำเป็นในการสร้างความแตกต่างในตลาดที่อิ่มตัว

12. ข้อเสนอแนะเชิงกลยุทธ์

ปัจจัยสู่ความสำเร็จ (Key Success Factors)

1. ความน่าเชื่อถือและผลลัพธ์ที่พิสูจน์ได้: ผลิตภัณฑ์ต้องสามารถแก้ปัญหาได้จริง โดยสร้างความเชื่อมั่นผ่านการรีวิวจากผู้ใช้จริง การรับรองจากผู้เชี่ยวชาญ และข้อมูลทางวิทยาศาสตร์

2. การครอบครองเส้นทางผู้บริโภคดิจิทัล: การวางกลยุทธ์การตลาดที่เน้นช่องทางดิจิทัลเป็นหลัก เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคตลอดเส้นทางการตัดสินใจซื้อ

3. การสร้างความแตกต่างด้วยนวัตกรรม: การลงทุนในการวิจัยและพัฒนาสารสกัดจากสมุนไพรไทยที่มีเอกลักษณ์ หรือการนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้

13. กรณีศึกษา

ความสำเร็จของ Havilah

การเติบโตอย่างรวดเร็วของ Havilah เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการใช้ประโยชน์จากแนวโน้ม "การแก้ปัญหาอย่างตรงจุด" และ "ความนิยมในส่วนผสมจากธรรมชาติ" จากสินค้าท้องถิ่นสู่แบรนด์ที่มียอดขายระดับร้อยล้านบาทต่อปี ด้วยการวางตำแหน่งที่ชัดเจนและการใช้เรื่องราวของผู้ก่อตั้งในการสร้างความน่าเชื่อถือ

14. สรุปและข้อคิดเห็น

ตลาดแชมพูในประเทศไทยเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงและมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง การแข่งขันที่รุนแรงทำให้แบรนด์ต้องสร้างความแตกต่างผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพ การสร้างความน่าเชื่อถือ และการใช้กลยุทธ์การตลาดดิจิทัลที่เหมาะสม กระแส Clean Beauty และความต้องการผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติจะยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในอนาคต

15. แหล่งอ้างอิง